-
Q
การเลือกแผนประกันให้กับพนักงานโดยให้พนักงานในสำนักงาน มีผลประโยชน์น้อยกว่าพนักงานที่ ปฏิบัติงานภายนอกสำนักงาน เช่น Messenger ได้หรือไม่ ?
Aไม่ได้ เพราะการเลือกแผนประกันภัยต้องเป็นไปตามตำแหน่งงาน ไม่สามารถเลือกจากความเสี่ยงได้
-
Q
หากเปิดกรมธรรม์ด้วยจำนวนพนักงานที่ 5 คน แต่ในระหว่างสัญญามีพนักงานลาออก และเหลือพนักงานจำนวน 2 คน จะถูกยกเลิก กธ.หรือไม่ ?
Aไม่ถูกยกเลิก แต่จะพิจารณาอีกครั้งเมื่อต่ออายุสัญญาใหม่ หากจำนวนคนน้อยกว่า 3 คน (เฉพาะพนักงาน) บริษัทฯ จะปฏิเสธการรับประกัน
-
Q
การสมัครทำประกัน SME Smile หากส่งเอกสารเรียบร้อยแล้วจะได้รับความคุ้มครองเมื่อไร
Aความคุ้มครองจะเริ่มมีผลบังคับหลังจากลูกค้าได้รับการอนุมัติรับประกันภัย และชำระเบี้ยประกันเรียบร้อยแล้ว
-
Q
หากต้องการซื้อประกันภัยเพิ่มค่ารักษาทันตกรรม จากแผนประกันหลัก โดยไม่ซื้อ OPD ได้หรือไม่?
Aไม่ได้ จะต้องซื้อแผนประกัน OPD ก่อน จึงจะซื้อการรักษาทันตกรรมได้
-
Q
มีหลักเกณฑ์อย่างไรในการซื้อประกันภัยเพิ่มผู้ป่วยนอก (OPD) หรือ ทันตกรรม (Dental)
AOPD ผลประโยชน์ต้องไม่เกินค่าห้องและค่าอาหารในแผนแรก (กรณีมี 3 แผน) ส่วนแผนถัดไป สามารถซื้อได้ไม่เกิน 2 ระดับแผน
-
Q
คู่สมรส หรือบุตร สามารถเข้าร่วมแผนประกันในระหว่างปีได้หรือไม่? เพราะเหตุใด
Aไม่ได้ ยกเว้น คู่สมรส หรือบุตร ของพนักงานเข้าใหม่เท่านั้น
-
Q
หากไม่ต้องการผลประโยชน์ตามแผนประกันที่นำเสนอใน SME Smile จะต้องทำอย่างไร
Aถ้าลูกค้ามีพนักงานตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป สามารถกำหนดผลประโยชน์ได้ตามสวัสดิการเดิม โดย ใช้วิธีการคำนวณตามข้อมูล เพื่อจัดทำใบเสนอราคาใหม่
-
Q
ในปีต่ออายุกรมธรรม์ เบี้ยประกันภัยจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่?
Aปีต่ออายุจะมีการพิจารณาเบี้ยประกันภัยใหม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ประสบการณ์เคลมในปีนั้น ๆ
-
Q
ในปีกรมธรรม์ถัดไป หากตัดความคุ้มครองที่ซื้อเพิ่มไว้คือ OPD กับ Dental ออก จะถูกยกเลิกกรมธรรม์หรือไม่
Aกรมธรรม์ยังมีผลบังคับ หากลูกค้าลงนามต่ออายุกรมธรรม์ตามเอกสารแจ้งเตือนของทางบริษัทฯ
-
Q
คู่สมรส และบุตร สามารถซื้อประกันร่วมด้วยได้หรือไม่ และมีหลักเกณฑ์อย่างไร
Aสามารถซื้อได้ เฉพาะประกันสุขภาพตามแผนของพนักงาน และต้องทำทั้งหมด สมัครใจเฉพาะ คู่สมรส หรือบุตร ไม่ได้
-
Q
เบี้ยประกันที่จะคืนทุกๆ 3 ปี จะคืนค่าเบี้ยทั้งหมดหรือไม่
Aกรณีคุณไม่มีประวัติการเคลมครบทุก 3 ปี คุณจะได้รับเบี้ยประกันที่คุณชำระมาในปีกรมธรรม์ที่ 3 คืนค่ะ
-
Q
เบี้ยประกันคงที่หรือไม่
Aชำระเบี้ยประกันคงที่ตลอดอายุสัญญาค่ะ
-
Q
กรณีประสบอุบัติเหตุจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ โครงการนี้คุ้มครองหรือไม่
Aไม่ว่าคุณจะประสบอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม จากการขับรถยนต์ หรือจากการขับขี่รถจักรยานยนต์จนต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เราก็ให้ความคุ้มครองค่ะ เพราะโครงการนี้พร้อมดูแลคุณเมื่อได้รับบาดเจ็บ คุณจะได้รับผลประโยชน์รายวัน กรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ตามแผนประกันที่คุณเลือก หรือหากคุณเกิดต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้องไอซียู หรือผ่าตัดจากอุบัติเหตุ คุณจะได้รับผลประโยชน์รายวันเป็น 2 เท่า
-
Q
ประกันสุขภาพยังดี แต่เมื่อสมัครไปสักพักเป็นโรคร้ายโดยที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน ทางบริษัทฯ จะมีการตรวจสอบและยกเลิกความคุ้มครองภายหลังหรือไม่
Aเนื่องจากไม่มีการถามคำถามสุขภาพตอนสมัครทำประกัน บริษัทฯจึงไม่สามารถใช้สิทธิบอกล้างสัญญาได้ ทั้งนี้ความคุ้มครองจะเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อยกเว้นที่ระบุ
ในกรมธรรม์ -
Q
หากเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยใน 2 ปีแรก จะได้รับผลประโยชน์ใดหรือไม่
Aกรณีหากเสียชีวิตจากเจ็บป่วยใน 2 ปีแรก บริษัทฯ จะจ่ายเงินเท่ากับเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระมาแล้ว ของแบบประกันภัยเมืองไทยสบายใจ 90/90 (เพื่อผู้สูงอายุ) บวกด้วยเงินเพิ่ม 2% ของเบี้ยประกันดังกล่าว แต่หากเสียชีวิตตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่ 3 เป็นต้นไป บริษัทฯ จ่ายจำนวนเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์
-
Q
กับข่าวลือที่มีคนแชร์กันในโลกออนไลน์ เรื่อง 9 โรคที่คนสูงอายุเป็นแล้วบริษัทประกันต่างๆ จะไม่คุ้มครอง จริงหรือไม่
Aอ้างอิงข่าวจากนสพ.โพสตูทูเดย์ ฉบับวันที่ 30 พ.ย. 2558 นายอำนาจ วงศ์พินิจวโรดม ผู้ช่วยเลขาธิการสายพัฒนาและวิเคราะห์ระบบการตรวจสอบ สำนักงานคปภ. เปิดเผยว่า หากลูกค้าทำประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ และบริษัทไม่ระบุให้ลูกค้าต้องแถลงเรื่องสุขภาพ หากลูกค้าเสียชีวิต บริษัทประกันต้องจ่ายสินไหมตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์ ไม่มีสิทธิปฏิเสธได้ ดังนั้น ข่าวลือดังกล่าว จึงไม่เป็นความจริง
-
Q
ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ หากเกิดข้อสงสัยหรือต้องการความกระจ่างในเรื่องต่างๆ
Aสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่าน Call Center ได้ตลอด 24 ชม.ที่หมายเลข 1766 หรือ www.muangthai.co.th หรือฝากข้อความไว้ใน inbox ทาง
Facebook: Muang Thai Life -
Q
เบี้ยประกันของโครงการนี้ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้หรือไม่
Aเฉพาะเบี้ยประกันชีวิตของโครงการนี้เท่านั้นที่ สามารถ นำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 172 ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 30 ธ.ค.51